จิตวิทยากับการออกแบบเว็บไซต์อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ
Mike Darnell
มีนาคม 2023

ในยุคดิจิทัลปัจจุบัน การออกแบบเว็บไซต์และการตลาดดิจิทัลได้มามีบทบาทสำคัญในการประสบความสำเร็จของธุรกิจ โดยการออกแบบเว็บไซต์หรือการเตรียมเนื้อหาทางการตลาดสามารถส่งผลทำให้เกิดการรับรู้ได้อย่างมากกับลูกค้าที่จะโต้ตอบกับแบรนด์ อย่างไรก็ตาม การที่จะออกแบบงานที่มีประสิทธิภาพจะไม่ใช่สนใจแค่เรื่องความสวยงามเท่านั้น แต่เราจะต้องทำความเข้าใจถึงหลักการของจิตวิทยาที่จะสามารถช่วยนักออกแบบและนักการตลาดเพิ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพกับการทำงานที่การมีส่วนร่วมของผู้ใช้และการแปลง

จิตวิทยา คืออะไร?

จิตวิทยา คือ การศึกษาทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งเร้าทางกายภาพและสิ่งเร้าเหล่าภายนอกที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหลักจิตวิทยาที่เราสามารถทำความให้เข้าใจถึงสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวเราได้ โดยนักจิตวิทยาได้ศึกษาไว้ว่าเราจะสามารถรับรู้ถึงสิ่งเร้าได้จะต้องมี แสง เสียง การสัมผัส และการรับรู้ ซึ่งจะเป็นอิทธิพลที่ทำให้พฤติกรรมของมนุษย์นั้นสามารถเกิดความสนใจและจดจำอยู่กับสิ่งนั้น

ซึ่งหลักจิตวิทยาหลักการนี้ ได้เริ่มมีมาตั้งแต่ศตวรรษที่แล้ว และยังเป็นหลักการที่ได้ถูกนำไปใช้ประยุกต์ใช้ในด้านต่าง ๆ อีกด้วย รวมถึงยังใช้ในด้านการออกแบบเว็บไซต์และการตลาดดิจิทัลอีกด้วยเช่นกัน

จิตวิทยาช่วยในเรื่องการออกแบบเว็บไซต์อย่างไรบ้าง

การออกแบบเว็บไซต์จะต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการสร้างประสบการณ์ให้กับผู้ใช้งานที่ทั้งได้ความสวยงามของหน้าเว็บไซต์และสามารถใช้งานได้จริง การออกแบบเว็บไซต์สามารถส่งผลให้การรับรู้ของผู้ใช้ที่มีต่อแบรนด์ ตลอดจนพฤติกรรมในการเลือกใข้เว็บไซต์ การทำความเข้าใจว่าผู้ใช้จะสามารถเข้าใจและสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ของเราได้ไหม นั้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อการออกแบบเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพอย่างไร

สี

สี เป็นรูปแบบหนึ่งของการออกแบบเว็บไซต์ที่ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากจิตวิทยา สีที่ต่างกันจะสามารถกระตุ้นอารมณ์ ความรู้สึก และการรับรู้ที่แตกต่างกันของผู้ใช้ ตัวอย่างเช่น สีโทนร้อนอย่างสีแดงและสีส้มจะสามารถสร้างความรู้สึกเร่งรีบ ในขณะที่สีโทนเย็นอย่างสีน้ำเงินและสีเขียวจะสามารถสร้างความรู้สึกสงบ การเลือกสีที่เหมาะสมสำหรับเว็บไซต์จะสามารถช่วยสร้างการรับรู้ที่ดีและสามารถสร้างความรู้สึกที่กระตุ้นความที่จะอยากได้สินค้าที่มากขึ้น จึงทำให้นำไปสู่การมีส่วนร่วมในการใช้เว็บไซต์และการแปลงเปลี่ยนแปลงที่มากขึ้น

การเปรียบเทียบกัน

การเปรียบเทียบกัน เป็นส่วนหนึ่งของปัจจัยที่สำคัญในการออกแบบเว็บไซต์ที่สามารถได้รับอิทธิพลจากจิตวิทยาได้เช่นกัน ซึ่งการเปรียบเทียบกันจะมีความแตกต่างระหว่างสองอย่างในการเปรียบเทียบ คือ สี และ โทนสีในการออกแบบ ซึ่งการเปรียบเทียบขั้นสูงจะสามารถช่วยสร้างความรู้สึกเน้นย้ำหรือเร่งรีบได้อย่างชัดเจน ในขณะที่การเปรียบเทียบต่ำมากๆนั้น จะส่งผลทำให้การสร้างความรู้สึกที่สงบหรือละเอียดอ่อนได้ดี การใช้กลยุทธ์การเปรียบเทียบ จะสามารถช่วยทำให้เกิดความสนใจของผู้ใช้ไปยังองค์ประกอบที่สำคัญบนหน้าเว็บไซต์ได้ และยังสามารถทำให้เกิดการมีส่วนร่วมกันและกันบนเว็บไซต์นั้น

ความซับซ้อนของภาพ

ความซับซ้อนของภาพนั้นเป็นปัจจัยในการออกแบบเว็บไซต์ที่ได้รับอิทธิพลจากจิตวิทยา ซึ่งความซับซ้อนของภาพนั้นหมายถึง จำนวนข้อมูลของรูปภาพที่มีอยู่ในการออกแบบ โดยการออกแบบที่มีความซับซ้อนสูงจะสามารถทำให้เกิดการสับสนและส่งผลทำให้เกิดการมีส่วนร่วมที่น้อยลง ซึ่งการออกแบบงานรูปแบบงานที่เรียบง่ายจะสามารถนำไปสู่การมีส่วนร่วมที่มากขึ้น เนื่องจากสามารถเข้าใจได้ง่ายกว่า
โดยการใช้พื้นที่สีขาวและรูปแบบรวมถึงองค์ประกอบในการออกแบบที่เรียบง่ายจะสามารถช่วยทำให้สร้างประสบการณ์ที่ดูใช้งานอย่าง่ายดายต่อผู้ใช้มากขึ้น และยังสามารถนำไปสู่การมีส่วนร่วมที่เพิ่มขึ้นอีกด้วยเช่นกัน โดยการที่เรานั้นจะต้องลดความซับซ้อนของหน้าเว็บเพจ

การออกแบบเว็บไซต์ที่เรียบง่ายช่วยลดความเหนื่อยล้าในการตัดสินใจ

นอกจากนี้ การลดความยุ่งยากของภาพและจำนวนขององค์ประกอบที่สามารถเลือกใช้ได้จะสามารถช่วยทำให้การออกแบบหน้าเว็บไซต์นั้นสามารถช่วยลดปัญหาในการเลือกใช้หน้าเพจได้ ซึ่งจะส่งผลโดยตรงที่ทำให้หน้าลดปัญหาความยุ่งยากของผู้ใช้ เมื่อผู้ใช้มีตัวเลือกมากเกินไปหรือถูกรุมล้อมด้วยข้อมูลที่มากจนเกินไป อาจจะทำให้ลูกค้านั้นรู้สึกว่าข้อมูลมันเยอะจนเกินไปจึงทำให้ตัดสินใจไม่ได้ที่จะเลือก สิ่งนี้เรียกว่าความเหนื่อยในการตัดสินใจ ด้วยการลดจำนวนองค์ประกอบ จะส่งผลทำให้การมองเห็นหน้าเว็บไซต์นั้นสามารถเกิดการเข้าใจที่ง่ายขึ้น ซึ่งการกระทำแบบนี้จะส่งผลทำให้ผู้ใช้สามารถคลิกและเข้าไปสู้หน้าเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดายและยังทำให้ผู้ใช้นั้นสามารถเข้าใจไปยังถึงส่วนต่างๆของหน้าเว็บเพจได้ง่ายขึ้นอีกด้วยเช่นกันและยังสามารถก่อให้เกิดการตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว นอกจากการปรับเปลี่ยนถึงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้แล้ว ยังสามารถช่วยลดภาระการรับรู้โดยรวมทั้งหมดได้ จึงส่งผลทำให้เกิดการการตัดสินใจได้อย่าง่ายดายและยังช่วยทำให้มั่นใจได้ยิ่งขึ้น ผลที่ตามมา ของการที่การลดความยุ่งยากในการจัดวางองค์ประกอบของรูปภาพและจำนวนองค์ประกอบที่ได้ปรับปรุงในหน้าเว็บไซต์นั้น สามารถช่วยทำให้หน้าเว็บไซต์เกิดการสร้างประสิทธิภาพในการใข้งานได้เป็นอย่างดี และยังส่งผลทำให้สามารถปรับปรุงความพึงพอใจของผู้ใช้ได้อีกด้วยเช่นกัน

ภาษา

สำหรับภาษาที่ควรจะเลือกใช้บนเว็บไซต์ของการสื่อสารทางการตลาดดิจิทัลนั้น ควรต้องที่จะส่งผลทำให้การรับรู้ของแบรนด์และผู้ใช้สามารถเข้าใจต่อสิ่งที่เราต้องการจะสื่อสารออกมาได้ โดยจะสามารถดูได้จากพฤติกรรมของผู้ใช้ที่แสดงออกมา โดยภาษาที่ควรจะเลือกใช้ควรจะเป็นภาษาที่สอดคล้องตรงกับกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุดและการเลือกใช้ภาษาควรจะสร้างความรู้สึกที่ดีหรืออาจจะเป็นความรู้สึกที่รู้สึกพิเศษให้กับการเลือกใช้ด้วยเช่นกัน ประโยค เช่น “ข้อเสนอแบบจำกัดเวลา” หรือ “การใช้คำที่เสนอถึงสิทธิพิเศษ” โดยการใช้ภาษาและคำเหล่านี้ ในการที่จะช่วยสร้างความรู้สึกที่อย่างรวดเร็วในการตัดสินใจให้ลูกค้านั้นเกิดการตัดสินใจที่จะซื้อสินค้าหรือการตัดสินใจที่ตกลงจะทำอะไรบางอย่าง Scarcity Biasing – เป็นอคติทางปัญญาที่ทำให้ผู้คนกำหนดอะไรบางอย่างที่มากขึ้นให้กับทรัพยากรที่ถูกมองว่าหายากหรือมีอยู่อย่างจำกัด

จิตวิทยาประยุกต์กับงานเว็บไซต์ – ตัวอย่างจากผลงานของเรา

สี – Alcamiglobal.com

Alcami เป็นบริษัทแปรรูปพลาสติกที่มีโรงงานผลิตอยู่ทั้งในประเทศไทยและฟิลิปปินส์ โดย Alcami ได้มีการเลือกใช้สีเพื่อดึงดูดความสนใจให้ลูกค้านั้นมีความสนใจของผู้ใช้ไปใช้บริการหลักของทางบริษัท โดยการกำหนดการของทางแบรนด์และแทมแพลตของสี สามารถเลือกใช้สีโทนสีดำและโทนสีส้มในการเปรียบเทียบกันได้ ซึ่งนอกจากจะช่วยทำให้เกิดความน่าสนใจแล้วยังสามารถช่วยทำให้สร้างความรู้สึกที่น่าสนใจนอกจากการเน้นรูปภาพอย่างเดียวอีกเช่นกัน แต่ยังได้ใช้ประโยชน์จากการเชื่อมโยงระหว่างสังคมและเครื่องมือ อุตสาหกรรม ฯลฯ

ภาษา – Firepump.ai .ai

Kirloskar เป็นหนึ่งในผู้ผลิตปั๊มอุตสาหกรรมที่มีระยะเวลามาอย่างยาวนานและใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งได้ดำเนินธุรกิจภายใต้แบรนด์ Firepump.ai ซึ่งหน้าแรกของแบรนด์จะเป็นในรูปแบบตัวอย่างของการที่เราสามารถเลือกใช้ภาษาเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้กับเว็บไซต์ของเรา จากตัวอย่างในเหตุการณ์นี้ ได้มีการใช้คำพูดในการกระตุ้นการตัดสินใจที่จะชักจูงให้ลูกค้านั้นเกิดการที่อยากจะ “พูดคุยกับวิศวกร” เพื่อให้เป็นไปในทางทิศทางเดียวกันกับการปรับไซต์ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่ได้ตั้งเอาไว้ เช่น ผู้จัดการอาคารและอาคารสถานที่ และบุคคลในบทบาทการปฏิบัติงานที่คล้ายคลึงกัน

ความซับซ้อนของภาพ – Ritta.co.th

สำหรับหน้าเว็บเพจหน้าแรกของตัวบริษัทที่รับเหมาก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยนั้นได้มีรูปแบบการออกแบบหน้าเว็บไซต์ที่เรียบง่ายสะอาดตา และในตัวของหน้าเว็บไซต์ยังมีตัววีดีโอขนาดใหญ่ที่วางประกอบอยู่พร้อมกับคำพูดอธิบาย ซึ่งการที่เราใช้รูปภาพและไฟล์วีดีโอขนาดใหญ่จะทำให้งานของเรานั้นมีคุณภาพที่ขนาดสูง จีงทำให้สามารถเห็นตัวอักษรและรูปแบบในการวางแบบแผนของงานได้ชัดเจนขึ้น ที่สามารถทำให้เกิดการสร้างการดึงดูดสายตาจากลูกค้านั้นให้หันมาสนใจ ซึ่งจะต้องขอบคุณกฎฮาโล่เอฟเฟกต์ที่ทำให้ทางบริษัทนั้นได้มีโอกาสทำการตรวจสอบดูเว็บไซต์ที่มากยิ่งขึ้นแต่ยังรวมถึงการพัฒนาในเชิงมุมมองเชิงบวกต่อ Ritta ในฐานะบริษัท อีกเช่นกัน

บทสรุป

สำหรับนักออกแบบและนักการตลาด ควรที่จะพัฒนาและทำความเข้าใจในหลักของจิตวิทยาในการที่จะออกแบบเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพได้มากขึ้นนั้นจะต้องคล้องจองไปด้วยกันกับการสื่อสารทางการตลาดดิจิตอลที่จะมีโน้วโน้มมากที่สุด ว่าจะสามารถดึงดูดให้ลูกค้านั้นสามารถเกิดการเปลี่ยนแปลงและเข้าใจถึงสิ่งที่เราจะสื่อได้หรือไม่
โดยการที่จะเลือกใช้หลักการต่างๆ เช่น สี คอนทราสต์ ความซับซ้อนของภาพ และภาษา นักออกแบบและนักการตลาดควรที่จะสร้างแคมเปญเพื่อทำให้เกิดการสนใจและเกิดการดึงดูดให้ลูกค้านั้นหันมาสนใจได้มากขึ้น
ตัวอย่าง เช่น Alcamiglobal.com และ Firepump.ai ได้แสดงให้เห็นว่าหลักจิตวิทยานั้นสามารถนำมาใช้เป็นหลักการในการสร้างเว็บไซต์ที่ทำให้เว็บไซต์ของเรานั้นมีความเข้มแข็งเกิดขึ้นได้และยังสามารถดึงดูดให้ลูกค้าหันมาสนใจได้อีกด้วยเช่นกัน ด้วยการใช้หลักการทางจิตวิทยามาใช้ในรูปแบบของการทำงานนั้น ได้จะส่งผลกระทบทำให้การสร้างสื่อทางการตลาดนั้นส่งผลกระทบที่มากขึ้นตามลำดับ ซึ่งผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจะส่งผลทำให้การจัดเลือกกลุ่มเป้าหมายที่ได้วางกลุ่มเป้าหมายเอาไว้นั้นบรรลุเป้าหมายทางการตลาดได้อย่างแน่นอน

ในขณะที่การตลาดดิจิทัลได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และได้มีนวัตกรรมอย่าง AI ก็ได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้นกับการดำเนินการ นักออกแบบและนักการตลาดอย่างเรา จึงต้องควรที่จะให้ความสนใจอย่างมากกับการทำความเข้าใจถึงหลักจิตวิทยาเพื่อที่สามารถจะทำความเข้าใจและสามารถเพื่มมูลค่าในด้านต่างๆได้
โดยสรุป นักออกแบบและนักการตลาดควรให้ความสำคัญกับความเข้าใจหลักการของจิตวิทยาในการทำงานให้มากๆ เพื่อที่จะได้ช่วยส่งเสริมกับการสร้างแคมเปญทางการตลาดดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพที่มากยิ่งขึ้นและสามารถส่งผลทำให้เกิดเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น

อ้างอิง

  1. Oliva, A., และ Torralba, A. (2007). บทบาทของบริบทในการจดจำวัตถุ แนวโน้มการคิดแบบทางวิทยาศาตร์ , 11(12), 520-527. doi: https://doi.org/10.1016/j.tics.2007.09.009
  2. Tractinsky, N., Katz, A. S., & Ikar, D. (2000). สิ่งไหนสวยก็ใช้ได้เลย หลักการโต้ตอบกับคอมพิวเตอร์, 13(2), 127-145. doi: https://doi.org/10.1016/S0953-5438(00)00026-4
  3. Lindgaard, G., Fernandes, G., Dudek, C., & Brown, J. (2006). เรียนกับนักออกแบบเว็บไซต์: คุณมีเวลา 50 มิลลิวินาทีในการสร้างความประทับใจแรก! พฤติกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ , 25(2), 115-126. doi: https://doi.org/10.1080/01449290500330448
  4. รูปถ่ายโดย Karlis Reimanis on Unsplash

ข่าวล่าสุด